“เอ็กโก กรุ๊ป” ซื้อหุ้นเพิ่มโรงไฟฟ้า “ชัยภูมิ-เทพพนา วินด์ฟาร์ม” ถือสัดส่วน 100%

ธุรกิจ26-9-65

“เอ็กโก กรุ๊ป” เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมอีก 10% โรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” และก็ “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ ทำให้เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดทั้งปวงของโรงไฟฟ้าอีกทั้ง 2 ที่ รับทราบรายได้ตามรูปร่างการลงทุนเพิ่มในทันที

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตกระแสไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กลุ่ม (EGCO) เผยออกมาว่า “เอ็กโกได้ซื้อหุ้นเพิ่มในรูปร่าง 10% ของบริษัท ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม จำกัด แล้วก็บริษัท เทวดาป่า วินด์ฟาร์ม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการแล้วก็บริหารจัดแจงโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” แล้วก็ “เทวดาป่า วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ เป็นลำดับ ซึ่งเป็นการซื้อหุ้นทั้งผองจากกรุ๊ปผู้ถือหุ้นเดิม โดยการซื้อรวมทั้งโอนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมได้สำเร็จแล้ว ช่วงวันที่ 22 ก.ย. 2565 สำเร็จให้เอ็กโกมีหุ้นทั้งสิ้นในโรงไฟฟ้าทั้งยัง 2 ที่”

ธุรกิจ26-9-65

โดยโรงไฟฟ้า “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” ตั้งอยู่ใน อำซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีกำลังในการผลิตจัดตั้ง 80 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับกฟผ. (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย) ภายใต้สัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้าจากผู้สร้างกระแสไฟฟ้ารายเล็ก (Small Power Producer – SPP) จำพวกคำสัญญา Non-firm เวลาที่โรงไฟฟ้า “เทวดาป่า วินด์ฟาร์ม” ตั้งอยู่ใน อำเภอเทวดาสถิต จังหวัดชัยภูมิ มีกำลังในการผลิตจัดตั้ง 7.5 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ากับกฟภ. (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ในแผนการผู้สร้างกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กมากมาย (Very Small Power Producer – VSPP) เริ่มขับเคลื่อนเชิงการค้ารวมทั้งจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อปี 2559 รวมทั้ง ปี 2556 เป็นลำดับ ดังนี้ โรงไฟฟ้าทั้งยัง 2 ที่ ส่งผลการดำเนินการที่ดี มีค่าความพร้อมเพรียงจ่ายสูง เครื่องจักรได้รับการบำรุงรักษาอยู่ในภาวะที่ดี และก็ยังตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีลมตลอดทั้งปี

นายเทพรัตน์ กล่าวว่า การเพิ่มรูปทรงการมีหุ้นส่วนในคราวนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อเคลื่อนหน่วยงานสู่ความยั่งยืนและมั่นคงของเอ็กโก กลุ่ม ด้วยแนวความคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” เพื่อใส่รับกับสมัยแปลงผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน ตลอดจนช่วยเหลือให้บริษัทได้สำเร็จตามเป้าหมายอีกทั้งระยะกึ่งกลางสำหรับการเพิ่มสเกลการสร้างกระแสไฟฟ้าจากพลังงานเวียนเป็น 30% และก็ลดการปลดปล่อยจำนวนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ต่อหน่วยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) ลง 10% ด้านในปี 2573 ในตอนที่วัตถุประสงค์ระยะยาวเป็นการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ข้างในปี 2593